สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องโลกอินเทอร์เน็ตอาจรู้สึกไม่พอใจนัก ถ้าหากเว็บไซต์โปรดที่เราเคยเข้า เข้าเว็บไม่ได้ สาเหตุเพราะเว็บไซต์นั้นถูกบล็อค ดังนั้นเราลองมาศึกษากันก่อนว่าทำไมบางเว็บไซต์ถึงไม่สามารถเข้าได้ โดยปกติแล้วการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชาชนจะถูกกำกับและดูแลโดยหน่วยงานของรัฐบาลสำหรับเนื้อหาบางเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมอาจจะถูกบล็อคในประเทศนั้น ๆหรือถ้าหากคุณอยากเข้าไปเสพเนื้อหาจากต่างประเทศคุณก็จะถูกบล็อกด้วยเช่นกัน เหตุผลก็เพราะประเทศต่าง ๆจะทำการปิดกั้นข้อมูลส่วนตัวภายในประเทศไม่ให้ประเทศภายนอกสามารถเข้าถึงได้เหมือนกับประเทศจีนที่ไม่สามารถใช้เฟซบุ๊กได้นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องอินเทอร์เน็ตแล้วไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม การที่ไม่สามารถเข้าถึงเนื้อหาบางอย่างได้เป็นอะไรที่น่าเสียดายและน่าผิดหวังอย่างยิ่ง
แต่ไม่ต้องกังวลไปเพราะในบทความนี้เราจะพาทุกท่านมารับชมวิธีการที่มีประสิทธิภาพ ในการเข้าสู่เว็บไซต์ที่มีการบล็อคด้วยวิธีการต่างๆ โดยมีให้เลือกใช้หลากหลายวิธีเข้าเว็บที่โดนแบนตามความถนัด รับประกันเลยว่าคุณเองก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองเพราะวิธีการไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด ถ้าหากคุณอยากเข้าสู่เนื้อหาที่ถูกปิดกั้นหรือถูกบล็อกแล้วล่ะก็ วิธีการต่าง ๆเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากแน่นอน สำหรับการปลดล็อคเว็บต่าง ๆ ถ้าหากคุณสามารถเข้าสู่เว็บที่โดนบล็อกได้ หรือการ เข้าเว็บไม่ได้ มันจะค่อนข้างมีประโยชน์และสะดวกมาทีเดียว เพราะนอกจากคุณจะสามารถเข้าถึงเนื้อหาชนิดพิเศษได้แล้ว คุณยังสามารถนำวิธีการปลดบล็อกเว็บไซต์ เพื่อเข้าไปดาวน์โหลดโปรแกรมจากต่างประเทศได้อีกด้วยหรือแม้แต่ใช้สำหรับการปลดแบนเว็บไซต์สำหรับผู้เล่นเกมออนไลน์ก็ได้เช่นกัน จะเห็นได้ว่าการปลดล็อคเว็บนั้นมีประโยชน์มากมายหลายอย่าง หากคุณต้องการสัมผัสกับการใช้อินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพสูงสุดจงอย่ารอช้าไปดูกันเลยว่าเราสามารถปลดล็อคเว็บได้ด้วยวิธีใดบ้าง
ใช้บริการ VPN ปลดบล็อก
VPN หรือ virtual private network คือ บริการเครือข่ายส่วนตัวโดยประโยชน์ของการเลือกใช้ VPN คือ ผู้ใช้สามารถปลดล็อคเว็บและเข้าเว็บที่โดนบล็อกได้ ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้มากที่สุดเพราะมีความสะดวกและเรียบง่ายแถมยังสามารถทำให้เราเข้าถึงเว็บไซต์ต่าง ๆได้ทั่วโลก และไม่เพียงแค่ปลดล็อคเว็บเท่านั้น แต่มันยังช่วยยกระดับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้อีกด้วย
ผู้ใช้นั้นสามารถท่องอินเทอร์เน็ตแบบปกปิดตัวตนได้หรือพูดง่าย ๆก็คือ คุณสามารถเข้าอินเทอร์เน็ตแบบไม่มีตัวตนได้ นั่นหมายความว่าจะไม่มีใครสามารถรู้ได้เลยว่าคุณกำลังค้นหาอะไรจากเว็บไซต์ แม้กระทั่งรัฐบาลก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าคุณคือใคร และยังไม่สามารถระบุตำแหน่งของผู้ใช้ได้อีกด้วย ซึ่งมันมีประโยชน์มากๆ สำหรับการท่องอินเทอร์เน็ตเพราะช่วยมันจะยกระดับความเป็นส่วนตัวและเข้าถึงเว็บไซต์ได้ต่าง ๆได้ง่ายขึ้น
แต่ข้อเสียของ VPN คือมีค่าใช้จ่ายโดยผู้ใช้ต้องเสียเงินเป็นรายเดือนหรือรายปีเพื่อทำการเช่า VPN แต่ราคานั้นก็ถือว่าไม่แพงมากนักสามารถจับต้องได้โดยราคาเริ่มเต้นจะอยู่ที่ประมาณ 2.5 $-3 $ ต่อเดือน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 75-90 บาท ต่อเดือน
ใช้ IP แทน URL
สำหรับปัญหาการเข้าเว็บไม่ได้อาจจะมาจากปัญหาของ URL สำหรับมือใหม่อาจจะสงสัยว่ามันคืออะไร เราขออธิบายความหมายของ URL แบบคร่าวๆเพื่อปรับความเข้าใจ
URL (Universal Resource Locator) คือ ที่อยู่ของเว็บไซต์ โดยมีหน้าที่เพื่อใช้ค้นหาหน้าเว็บแบบเฉพาะเจาะจงยกตัวอย่าง GOOGLE ถ้าหากเราจะเข้าถึง GOOGLE โดยใช้ URL เราต้องค้นหาโดยพิมพ์ว่า www.google.com
IP (internet protocol) คือ มาตรฐานที่สร้างขึ้นในเรื่องของการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างเครื่องปลายทางกับคอมพิวเตอร์ แต่สำหรับปัญหาเข้าเว็บไม่ได้อาจจะมาจากปัญหาของ URL จึงทำให้เราไม่สามารถเข้าเว็บนั้นได้ แต่เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ง่ายๆโดยการเปลี่ยน URL มาเป็น IP แทนนั่นเองพูดให้เข้าใจก็คือการเข้าเว็บไซต์โดยใช้ IP แทน URL โดยวิธีการเปลี่ยน URL เป็น IP ให้เราเข้าไปที่ https://www.ultratools.com/tools/ipWhoisLookup
จากนั้นนำ URL ไปใส่ในช่องค้นหาเราก็จะได้ IP ออกมา
ตัวอย่างวิธีเปลี่ยน URL เป็น IP
– ทำการพิมพ์ที่อยู่ของเว็บไซต์ที่เราต้องการค้นหายกตัวอย่าง เช่น GOOGLE โดย URL ของ GOOGLE คือ www.google.com จากนั้นทำการใส่ URL นี้ลงไปในช่องค้นหาจากนั้นเราจะได้ที่อยู่ IP เพื่อ เข้าเว็บที่โดนบล็อก
ซึ่งก็คือ IP Address: 172.217.2.100 จากนั้นให้เรานำ IP ที่ได้ไปใส่ในช่องค้นหาเพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าเว็บที่โดนบล็อกได้แล้ว
แทนที่เซิร์ฟเวอร์ DNS ของคุณ (DNS ที่กำหนดเอง)
ระบบชื่อโดเมนหรือ DNS คือสิ่งสำคัญของการปรากฏตัวในโลกอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้ ทุกชื่อโดเมนนั้นจะต้องใช้ DNS เหมือนกันหมดเพื่อควบคุมว่าผู้เข้าชมจะพบเว็บไซต์เหล่านั้นได้อย่างไร หากเราเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆDNS เปรียบเสมือนกับ GPS ที่เป็นตัวนำทางผู้เข้าชมมาสู่เว็บไซต์ต่าง ๆนั่นเอง และแน่นอนสำหรับการที่จะเข้าเว็บที่โดนบล็อกเราสามารถใช้ DNS เป็นเครื่องมือในการปลดล็อคเว็บไซต์ได้ด้วยโดยการกำหนด DNS ใหม่
ขั้นตอนการเปลี่ยนการตั้งค่า DNS
- ไปที่ Control Panal จากนั้นเลือกหัวข้อ Network & Shareing Center
- มองทางด้านซ้ายมือจากนั้นเลือก Change adapter setting จะมีหน้าต่างใหม่โผล่ขึ้นมา
- คลิกขวาที่ icon Ethernet เลือก Properties
- ขั้นตอนนี้สำคัญมาก หากคุณใช้ IPv4 หรือ IPv6 ก็ให้เข้าไปตั้งค่าให้ตรงตามการใช้งานจากนั้นเลือก Properties
- ทำการเลือก Use the following DNS server addresses แล้วกด OK ก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ใช้ TOR (The Onion Route)
TOR หรือ The Onion Router หรือเราเตอร์หัวหอมถูกพัฒนาและสร้างขึ้นที่ห้องปฏิบัติการวิจัยกองทัพเรือสหรัฐมีเป้าหมายคือ การปกปิดการส่งข้อมูล และป้องกันการถูกแทรกแซง หรือกระบวนการแฮกเมื่อ เข้าเว็บไม่ได้ หรือการเข้าเว็บที่โดนบล็อก
ซึ่งหน้าที่ของ TOR นั้นจะคล้ายคลึงกับ VPN และทั้งสองเครื่องมือนี้ยังสามารถใช้ร่วมกันได้อีกด้วยเพื่อยกระดับความปลอดภัยให้กับการใช้อินเทอร์เน็ต TOR นั้นเป็นเครื่องมือสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าสู่ Deep web ซึ่งมันก็คือเว็บไซต์ลับที่สามารถเข้าได้เฉพาะคนบางกลุ่มเพียงเท่านั้น
แน่นอนประโยชน์ของมันนั้นยังสามารถทำให้เราสามารถแก้ปัญหาการ เข้าเว็บไม่ได้ อีกด้วย เครื่องมือตัวนี้จะช่วยให้เราเข้า เว็บ ที่ ถูก บล็อกได้โดยวิธีการใช้งานคือ การดาวน์โหลดเบราว์เซอร์ของ Tor มาใช้แทนอินเทอร์เน็ตอย่าง FireFox, Chrome เพราะอินเทอร์เน็ตเหล่านี้มีการระบบตำแหน่งตัวตนของผู้ใช้ทำให้คุณไม่สามารถเข้า เว็บ ที่ ถูก บล็อกได้นั่นเอง Tor จึงเป็นตัวเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเข้า เว็บ ที่ ถูก บล็อก หรือจะใช้เพื่อปลดบล็อกเว็บก็ได้เช่นกันโดยหลักการทำงานจะเหมือนกับการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วไปเพียงแต่นามสกุลของเว็บไซต์จะลงท้ายด้วย .onion
เปลี่ยนมาใช้ Network Proxy ในเบราว์เซอร์หรือใช้เว็บไซต์ Proxy
Network Proxy คือ ระบบคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมประยุกต์ที่มีหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับการส่งผ่านข้อมูลทางเครือข่ายอินเทอร์เน็ตหรือหลาย ๆคนจะเรียก Network Proxy ว่าเป็นเครื่องแม่ก็ได้เพราะ Proxy จะทำการรับข้อมูลแทนเครื่องลูก(เครื่องของผู้ใช้) โดยข้อดีคือทำให้ผู้ใช้สามารถปกปิดตัวตนการค้นหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตได้ อีกทั้งยังสามารถใช้เพื่อปลดบล็อกเว็บไซต์ที่เข้าไม่ได้อีกด้วย
การตั้งค่าการใช้งาน
- คลิก Start คลิก Settings
- บนหน้า Windows Settings คลิก Network & Internet
- บนหน้า Network & Internet คลิกหัวข้อ Proxy (อยู่ในบานหน้าต่างด้านซ้ายมือ)
- ในหัวข้อ Manual proxy setup ในหน้า Proxy (อยู่ในบานหน้าต่างด้านขวามือ) ให้เลื่อนการตั้งค่า Use a proxy server เป็น On
- ป้อนชื่อของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ในช่อง Address และป้อนหมายเลขพอร์ตของพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ในช่อง Port
ใช้ Google Translate เพื่อซ่อนที่อยู่ของเว็บไซต์
หลาย ๆคนอาจจะรู้สึกตกใจว่า Google Translate หรือเครื่องมือแปลภาษาที่ทุกคนต่างรู้จักกันดีมันสามารถใช้เข้าเว็บโดนบล็อคได้ด้วยจริงหรือ คำตอบคือ จริงอย่างแน่นอน เพราะสำหรับวิธีสุดท้ายนี้ถูกจัดเป็นวิธีที่เบสิกและง่ายสุด ๆ รับรองว่าทุกคนสามารถทำตามได้อย่างแน่นอนเพราะการเข้าเว็บไซต์โดยใช้
Google Translate จะสามารถทำให้เราเข้า เว็บ ที่ ถูก บล็อกได้ โดย Google Translate จะช่วยทำหน้าที่ในการซ่อนที่อยู่ของเว็บไซต์ที่เราต้องของเข้าถึงทำให้เราสามารถเข้าเว็บโดนบล็อคเหล่านั้นได้ แน่นอนว่าถึงแม้เครื่องมือแปลภาษาชิ้นนี้จะสามารถทำให้เราเข้าถึงเข้าเว็บโดนบล็อคได้จริง และเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเข้าเว็บโดนบล็อคแต่ข้อเสียก็คือ ประสิทธิภาพในการใช้งาน เพราะวิธีนี้อาจใช้ไม่ได้ผลกับเว็บไซต์ที่ถูกปิดกั้นอย่างสมบูรณ์นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้เครื่องมือแปลภาษาชิ้นนี้ในการเข้าเว็บโดนบล็อคได้แค่บางเว็บไซต์เพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตามวิธีนี้เป็นวิธีที่คุณควรลองและนำไปปรับใช้เพราะมันอาจจะทำให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีการบล็อคได้ สำหรับวิธีการใช้งานสามารถทำตามวิธีด้านล่างนี้
วิธีการใช้งาน
- ขั้นตอนที่แรก: เข้าเว็บ https://translate.google.com
- ขั้นตอนที่สอง: Copy URL เว็บที่คุณต้องการจะเข้าไปอ่าน
- ขั้นตอนที่สาม: กดที่ช่องแปลภาษาและวาง URL ที่ Copy มา จากนั้นคลิกที่ URL อันใหม่ที่ Google Translate ได้แปลออกมา
เพียงแค่ทำตามสามขั้นตอนด้านบนคุณก็สามารถสนุกและเพลิดเพลินกับการเข้าเว็บโดนบล็อกได้เลย
สรุป
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการท่องโลกอินเทอร์เน็ตแบบเต็มรูปแบบ 100 % คงรู้สึกไม่สบายใจหากบางเว็บไซต์หรือเว็บไซต์โปรดของคุณไม่สามารถเข้าได้อีกต่อไป เพราะปัญหาการถูกบล็อคจากเว็บไซต์ หรือเว็บไซต์นั้นอาจจะถูกบล็อคทำให้เราไม่สามารถเข้าถึงได้ และไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตามสิ่งกีดขวางในการเข้าถึงเว็บไซต์เหล่านี้ช่างน่าหงุดหงิดใจ แต่ทุกปัญหามีทางออกเสมอดังนั้นเราจึงแนะนำวิธีการในการแก้ไขปัญหาของการปลดบล็อคเว็บไซต์รวมทั้งวิธีเข้าเว็บที่โดนแบนด้วย 6 วิธีหลัก ๆ
- ใช้บริการ VPN เพื่อปลดบล็อก
- ใช้ IP แทน URL
- แทนที่เซิร์ฟเวอร์ DNS ของคุณ (DNS ที่กำหนดเอง)
- ใช้ TOR (หัวหอมเราเตอร์)
- เปลี่ยน Network Proxy ในเบราว์เซอร์หรือใช้เว็บไซต์ Proxy
- ใช้ Google Translate เพื่อซ่อนที่อยู่ของเว็บไซต์
ทั้ง 6 วิธีการนี้ที่เราได้นำเสนอสามารถแก้ไขปัญหาการถูกบล็อกจากเว็บไซต์ได้จริง และเป็นวิธีที่ง่าย
โดยคุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแต่ละวิธีการนั้นจะมีประสิทธิภาพในการปลดบล็อกเว็บที่แตกต่างกันและแน่นอนความยากง่ายของการเข้าถึงเว็บไซต์แต่ละเว็บก็จะแตกต่างกันไปดังนั้นคุณควรเลือกใช้วิธีการปลดบล็อคเว็บไซต์จากวิธีการทั้ง 6 แบบตามความเหมาะสมในแต่ละเว็บไซต์
อ่านหัวข้อเพิ่มเติมในบล็อกของเรา:
Comments