PrivateVPN คือ ผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือนจริง หรือ VPN (virtual private network) ผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือนจริงรายนี้มีบริษัทแม่ที่ถูกก่อตั้งขึ้นที่ประเทศสวีเดน โดยถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2552 และชื่อเต็มของ บริษัท คือ Privat Kommunikation Sverige หรือเราอาจจะเรียกกันสั้นๆว่า PrivateVPN หากเราลองสังเกตดูที่ชื่อของพวกเขาดีๆแล้ว เราจะเห็นได้อย่างเจนเลยว่าพวกเขาต้องการสื่อให้ทุกคนมั่นใจในระบบความเป็นส่วนตัวของพวกเขา มันค่อนข้างเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังโหยหาความเป็นส่วนตัวบนโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันความเป็นส่วนตัวนั้นแทบไม่มีเลยบนโลกออนไลน์ เพราะไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามแต่ การกระทำของคุณจะถูกจับตามองอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นจากรัฐบาล จากหน่วยงาน ISP หรือจากบริษัทเอกชนที่ต้องการข้อมูลส่วนตัวของคุณอย่างบ้าคลั่งเพื่อนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์ และในกรณีเลวร้ายสุดคุณอาจกำลังถูกจับตามองโดยแฮกเกอร์
จะเห็นได้ว่าไม่ว่าคุณจะทำอะไรก็ตามบนโลกอินเทอร์เน็ตมันแทบไม่มีความเป็นส่วนตัวอยู่เลยสักนิดเดียว ดังนั้นการที่ PrivateVPN ได้ถือกำเนิดและกล่าวว่าจะมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้บริการทุกคนจึงเป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราพาคุณมาตามหาความจริงเกี่ยวกับการใช้งาน VPN ที่ PrivateVPN ว่ามีประสิทธิภาพและสามารถสร้างความเป็นส่วนตัวได้จริงหรือไม่ ห้ามพลาดเด็ดขาดหากคุณกำลังมองหาความเป็นส่วนตัวในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
เครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ PrivateVPN และความเร็ว
PrivateVPN มีปริมาณเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 86 เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์ของพวกเขาได้กระจายตัวไปยังเป็นเทศต่างๆไม่ว่าจะเป็นออสเตรีย, สวีเดน, สวิสเซอร์แลนด์, สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, เดนมาร์ค, ฝรั่งเศส, ลักเซมเบิร์ก, นอร์เวย์, ฟินแลนด์, โรมาเนีย, เยอรมนี, รัสเซีย, เนเธอร์แลนด์, สิงคโปร์, แคนาดา, ออสเตรเลีย, อิตาลี, สเปน, โปแลนด์ และยูเครน แน่นอนว่าคุณสามารถเลือก IP address จาก PrivateVPN ในการเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเซิร์ฟเวอร์ของประเทศต่างๆ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของข้อมูลอีกทั้งยังเป็นการยกระดับความปลอดภัยให้กับคอมพิวเตอร์ของคุณ นอกจากนี้บริการพร็อกซี่ HTTP ของพวกเขายังได้รับการออกแบบมาเพื่อให้สามารถรองรับระบบ OpenVPN, L2TP, PPTP, IPSec, IKEv2, HTTP Proxy และโปรโตคอล SOCKS5 ได้อีกด้วย
ทีนี้เราลองมาพูดในเรื่องของระบบความเร็วดูบ้าง จากการทดสอบการใช้งานเราต้องขอพูดตามตรงเลยว่า PrivateVPN นั้นค่อนข้างมีระดับความเร็วที่ต่ำพอสมควร จากการทดสอบเชื่อมระบบเซิร์ฟเวอร์ในหลายๆประเทศพบว่า PrivateVPN มีค่า Ping ในการเชื่อมต่อที่มากพอสมควร ซึ่งในจุดนี้ค่อนข้างทำให้เราผิดหวังอย่างมากสำหรับการใช้งาน Private-VPN แต่อย่างไรก็ตามถึงแม้ความเร็วในการเชื่อมต่อจะค่อนข้างช้า แต่จากมุมมองในเรื่องของความเสถียร Private-VPN มีระดับความเสถียรอยู่ในระดับที่ดีพอสมควร ดังนั้นถ้าในอนาคต Private-VPN สามารถลบข้อบกพร่องตรงนี้ไปได้ ก็จะทำให้การใช้งาน VPN ของผู้ให้บริการรายนี้มีความน่าสนใจมากพอสมควร
PrivateVPN – ฟีเจอร์และคุณสมบัติ
คุณสมบัติเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ต
PrivateVPN ค่อนข้างทำระบบรักษาความเป็นส่วนตัวออกมาได้อย่างดีเยี่ยม สมกับที่ใช้ชื่อ PrivateVPN หากคุณต้องการความเป็นส่วนตัวในการใช้งานอินเทอร์เน็ต เราหวังว่าผู้ให้บริการ Private-VPN จะไม่ทำให้คุณผิดหวัง เพราะจากการทดสอบด้านความปลอดภัยในหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็น การทดสอบการรั่วไหลของข้อมูล การทดสอบความปลอดภัยของระบบ การทดสอบประสิทธิภาพในการป้องกัน องค์ประกอบทั้งหมดนี้มีผลลัพธ์ในการทดสอบที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก ต้องขอยอมรับเลยว่า PrivateVPN สามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณได้จริงตามที่พวกเขาได้กล่าวเอาไว้ เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มที่โดยไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านความเป็นส่วนตัวอีกต่อไป
ฟังก์ชันระบบ Kill Switch
PrivateVPN เป็นผู้ให้บริการ virtual private network ที่มีระบบ Kill Switch ซึ่งฟังก์ชันนี้เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับการเริ่มต้นใช้งาน VPN สำหรับผู้ที่ยังเป็นมือใหม่ในการใช้งาน VPN เราขออธิบายคร่าวๆให้คุณเข้าใจว่าระบบฟังก์ชัน Kill Switch คืออะไร โดยปกติการเชื่อมต่อเข้าสู่อินเทอร์เน็ตโดยใช้ VPN คุณจะไม่สามารถถูกตรวจสอบและถูกจับตามองจากบุคคลภายน้อยได้เนื่องจาก IP ที่คุณใช้จะเป็นของผู้ให้บริการ VPN แต่ถ้าหากการทำงานของ VPN มีปัญหาหรือเกิดการหยุดชะงัก IP ของคุณจะถูกเปลี่ยนกลับมาเป็น IP สาธารณะทันที และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้คุณสามารถถูกบุคคลภายนอกอย่าง ISP เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ทันที และคุณคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นระบบฟังก์ชัน Kill Switch จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ IP ของคุณเปลี่ยนกลับไปเป็น IP สาธารณะเมื่อเกิดข้อผิดพลาดในการใช้งาน VPN
เซิร์ฟเวอร์ส่วนมากสามารถทำงานร่วมกับ Netflix ได้
PrivateVPN เป็นผู้ให้บริการ VPN ที่สามารถทำงานควบคู่กับ Netflix ได้ในหลายๆประเทศไม่ว่าจะเป็น Netflix แบบทั่วไปหรือจะเป็น Netflix US ก็สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง ซึ่งคุณสมบัตินี้จะทำให้ผู้ที่ต้องการรับชมภาพยนต์จากต่างประเทศสามารถเสพสุขได้อย่างเต็มที่โดยไม่ถูกบล็อก
ราคาแพ็คเกจและส่วนลด
PrivateVPN เป็นผู้ให้บริการที่มีราคาอยู่ในระดับมิตรภาพ ซึ่งคุณสามารถเลือกได้หลากหลายแพ็กเกจตามความเหมาะสมในการใช้งานของคุณ นอกจากนี้คุณยังมีโอกาสได้รับส่วนลดพิเศษอีกด้วย
แพ็คเกจหนึ่งเดือน
- ราคา: 10.95$ /เดือน
แพ็คเกจสามเดือน
- ราคา: 7.31$ /เดือน
แพ็คเกจหนึ่งปี
- ราคา: 5.95$ /เดือน
นอกจากนี้พวกเขายังเสนอส่วนลดสุดพิเศษให้แก่ผู้ใช้บริการทุกคนอีกด้วย ซึ่งคุณมีโอกาสได้รับส่วนลดสูงสุดถึง 25%
Streaming – PrivateVPN เหมาะสำหรับการสตรีมหรือไม่?
PrivateVPN ประสบความสำเร็จในการทดสอบการสตรีมในหลายๆพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐอเมริกา นิวยอร์ก ลอสแองเจลิส แคนาดา ประเทศอังกฤษ เนเธอร์แลนด์ ฯลฯ
PrivateVPN ดีและปลอดภัยในการใช้งานหรือไม่?
PrivateVPN มีความปลอดภัยในการใช้งานอยู่ในระดับสูง ซึ่งเป้าหลายหลักของพวกเขาก็คือการยกระดับความปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้บริการ ที่สำคัญในการทดสอบด้านความปลอดภัยเราไม่พบปัญหาข้อบกพร่องใดๆในการทดสอบ ดังนั้นคุณจึงสามารถไว้วางใจได้พอสมควรเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้บริการ VPN ของ PrivateVPN
ข้อดีข้อเสีย
PrivateVPN เป็นผู้ให้บริการด้าน VPN ที่ค่อนข้างมีความน่าสนใจและมีประสิทธิภาพ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าพวกเขาก็มีข้อบกพร่องบางอย่างที่น่าผิดหวัง
ภาพรวมการสนับสนุนและการบริการลูกค้า
PrivateVPN มีระบบการบริการลูกค้าที่ค่อนข้างน่าประทับใจ เพราะคุณสามารถติดต่อหาฝ่ายสนับสนุนได้ตลอด 24 ชั่วโมงผ่านระบบช่องทางแชทสดที่ตัวโปรแกรม และถ้าหากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการ VPN คุณก็สามารถเข้าไปแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเองจากคำแนะนำการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นที่ https://privatevpn.com/vpnmentor/
คำตัดสินสุดท้ายของเรา
PrivateVPN เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการใช้บริการ VPN ราคาประหยัดและเน้นใช้งานแบบทั่วไป เหตุผลที่เราไม่ค่อยแนะนำ VPN ค่ายนี้มากเท่าไหร่นักเนื่องจากปัญหาด้านความเร็วที่อาจส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ากังวล
Leak Test, WebRTC Leaks หรือ DNS Leaks
- IP Leak Test — https://ipleak.net/
- WebRTC Leaks — https://browserleaks.com/webrtc
- DNS leak test — https://perfect-privacy.com/dns-leaktest/
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ vpn-th.com:
Comments