Speedify VPN คือ ผู้ให้บริการเครือข่ายเสมือนจริงสัญชาติอเมริกา พวกเขามีกรอบความคิดที่แตกต่างจากผู้ให้บริการ VPN รายอื่นๆ พวกเขาได้สร้าง VPN ที่มีความสามารถที่โดดเด่นและน่าดึงดูดแก่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทุกคน โดยปกติแล้วปัจจัยพื้นฐานของการใช้งาน VPN คือการยกระดับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเทอร็เน็ตและเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน แต่นั่นมันก็เพียงความสามารถทั่วไปที่ใครๆก็มี แน่นอนว่าการใช้งาน VPN ต้องแลกมาด้วยความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ลดลง เนื่องจากแบนด์วิดท์ในการใช้งาน VPN นั้นจะถูกจำกัดเอาไว้ตามปริมาณการใช้งาน ประกอบกับการเชื่อมต่อเครือข่าย VPN จากอุปกรณ์หลายๆเครื่องก็ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้การใช้งาน VPN นั้นมีความล่าช้า และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง VPN ที่มีคุณสมบัติเด่นที่ไม่เหมือนใคร
คุณสมบัติ ของ Speedify VPN
Speedify-VPN ได้ตั้งเป้าหมายในการเอาชนะข้อจำกัด “ระดับความเร็ว” ของการใช้งาน VPN พวกเขาได้คิดค้นระบบการส่งผ่านข้อมูลเป็นของตนเองเพื่อลดปัญหาความล่าช้าในการใช้งาน VPN ซึ่งสิ่งนี้ถือเป็นสิ่งที่ใครหลายๆคนต่างสนใจ โดยเฉพาะกลุ่มสตรีมมิ่งที่ต้องการรักษาความเสถียรในเชื่อมต่อ VPN ดังนั้นถ้าหากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการ VPN ที่มีความโดดเด่นในเรื่องของการสตรีมมิ่งและการเล่นเกมโปรดติดตามข้อมูลสำคัญที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยวกับผู้ให้บริการ VPN รายนี้
คุณสมบัติการปลดบล็อกเว็บไซต์
Speedify VPN มีคุณสมบัติในการปลดบล็อกเว็บไซต์ซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของ VPN ปัจจุบันพวกเขามีเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมด 50 แห่งใน 35 ประเทศ และถึงแม้พวกเขาจะเป็นผู้ให้บริการ VPN สัญชาติอเมริกาแต่พวกเขายังมีบริการ VPN ในบราซิล อินเดีย อิสราเอล ญี่ปุ่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้งานคุณสมบัติการปลดบล็อกเว็บได้หลากหลาย นอกจากนี้ Speedify-VPN ยัง รองรับการใช้งาน DNS ผ่าน HTTPS ด้วยเช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติพิเศษนี้จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ที่มีการบล็อก VPN ได้นั่นเอง
คุณสมบัติรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ทุกรูปแบบ
Speedify VPN มีคุณสมบัติรองรับการใช้งานบนอุปกรณ์ทุกรูปแบบ นั่นหมายความว่าคุณสามารถใช้บริการ VPN แบบข้ามแพลตฟอร์มได้นั่นเองไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, โน๊ตบุ๊ค, Mac ฯลฯ
ซึ่งคุณสมบัตินี้จะช่วยอำนวยความสะดวกใจการใช้งานแก่ผู้ใช้บริการเป็นอย่างมาก เพราะคุณสามารถเข้าถึงบริการ VPN ได้จากอุปกรณ์ทุกประเภทโดยปราศจากข้อจำกัดใดๆ และที่น่าสนใจคือพวกเขามีแอปพลิเคชันสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์แต่ละรูปแบบโดยเฉพาะทั้ง Android/iOs และ Windows
คุณสมบัติการรักษาระดับความเร็ว
Speedify VPN ได้ตั้งเป้าหมายที่จะเอาชนะข้อจำกัดของการใช้งาน VPN นั่นก็คือ “ระดับความเร็ว” โดยปกติแล้วการใช้งาน VPN จะทำให้การเชื่อมต่อของคุณล่าช้าเนื่องจากต้องเชื่อมต่อโดยใช้อุปกรณ์หลายเครื่อง แต่ Speedify-VPN ได้คิดค้นระบบรักษาความเร็วเป็นของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณกำลังทำการสตรีมมิ่งแล้วความเร็วเกิดลดลง Speedify-VPN จะทำการคำนวณระดับความสำคัญในการใช้งานของคุณ จากนั้น Speedify-VPN จะปิดการทำงานในที่ไม่สำคัญบน VPN เพื่อเพิ่มปริมาณแบนด์วิดท์ให้กับการสตรีมมิ่งของคุณ สิ่งนี้เป็นคุณสมบัติที่จะช่วยให้คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการสตรีมมิ่งได้อย่างเต็มที่ โดยพวกเขาจะทำหน้าที่ในการลดปัญหาความล่าช้าที่เกิดขึ้นบน VPN
การทดสอบความเร็ว Speedify VPN
Speedify VPN ใช้ระบบการควบคุมความเร็วแบบ TCP จากการทดสอบประสิทธิภาพด้านความเร็วของ Speedify-VPN เราได้ผลลัพธ์ระดับความเร็วอยู่ที่ 50-60 Mbps และจากการทดสอบในการเชื่อมต่อ VPN เข้าสู่เซิร์ฟเวอร์สหรัฐอเมริกาเราได้ระดับความเร็วอยู่ที่ 250 Mbps เลยทีเดียว ซึ่งระดับความเร็วดังกล่าวเป็นระดับความเร็วที่มากพอในการทำกิจกรรมบน VPN ถึงแม้โดยมาตรฐานระดับความเร็วของ WireGuard ควรอยู่ที่ 500 Mbps ก็ตาม
Speedify VPN และความปลอดภัยของคุณ
Speedify VPN ไม่มีนโยบายการบันทึกข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน ซึ่งพวกเขาเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการทุกคนสามารถชำระค่าบริการผ่านทางสกุลเงินคริปโทเคอเรนซีได้ด้วย ซึ่งการชำระเงินด้วยสกุลเงินดังกล่าวจะทำให้พวกเขาไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ สรุปโดยรวมแล้วเรา Speedify VPN มีมาตรฐานความปลอดภัยในเกณฑ์มาตรฐานที่สามารถไว้วางใจได้
สามารถปลดบล็อกสตรีมมิ่งยอดนิยมได้หรือไม่
Speedify VPN ถูกจัดเป็นบริการ VPN สำหรับขวัญใจชาวสตรีมมิ่งหลายๆคนเลยก็ว่าได้ เนื่องจาก Speedify VPN ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อลดข้อจำกัดในด้านความเร็วของ VPN ซึ่งปัญหาในด้านความเร็วถือเป็นอุปสรรคต่อการสตรีมมิ่งอย่างมาก เพราะการที่ระดับความเร็วลดลงจะส่งผลให้การสตรีมมิ่งไม่มีความลื่นไหล แต่ Speedify VPN เลือกใช้การควบคุมความเร็วแบบ TCP มันจึงทำให้คุณสามารถทำการสตรีมมิ่งได้อย่างลื่นไหลโดยปราศจากปัญหาด้านความเร็ว แต่เป็นสิ่งที่น่าเสียดายเนื่องจาก Speedify VPN ไม่สามารถปลดบล็อกสตรีมมิ่งยอดนิยมได้ทั้งหมดอย่าง NetflixUS
การวิเคราะห์เซิร์ฟเวอร์ของ Speedify VPN
Speedify VPN มีระบบการทำงานของเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่ได้มาตรฐานตามองค์ประกอบพื้นฐานที่ VPN ควรมี และจุดเด่นที่น่าสนใจของผู้ให้บริการรายนี้ก็คงหนีพ้น คุณสมบัติการรักษาระดับความเร็วแบบ TCP ที่ช่วยเพิ่มความเสถียรในการใช้งาน VPN และขนาดเซิร์ฟเวอร์ 430 แห่งที่อยู่ในสหรัฐก็เพียงพอต่อการเชื่อมต่อเข้าสู่เว็บไซต์ต่างประเทศหลายๆแห่ง แต่อย่างไรก็ตามด้วยขนาดเซิร์ฟเวอร์ที่จำกัด ก็ทำให้ Speedify VPN ยังคงมีข้อจำกัดในการปลดบล็อกเว็บไซต์บางประเภท
ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า
Speedify VPN ในกรณีที่คุณเกิดปัญหาในการใช้บริการ VPN สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนได้ผ่านทางเว็บไซต์ได้โดยตรง และถ้าหากคุณต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมคุณจำเป็นต้องติดต่อหาพวกเขาผ่านทาง Email
Leak Test, WebRTC Leaks หรือ DNS Leaks
- IP Leak Test — https://ipleak.net/
- WebRTC Leaks — https://browserleaks.com/webrtc
- DNS leak test — https://perfect-privacy.com/dns-leaktest/
อ่านรีวิว VPN อื่นๆ ของเรา:
Comments